โครงการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินสามารถดำเนินการได้หลายวิธี โดยปกติการเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดมักขึ้นอยู่กับการที่รู้ว่าบริษัทของคุณต้องการอะไร และเข้าใจข้อดีและข้อเสียของตัวเลือกโมเดล และการเลือกตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับนายจ้างและพนักงาน
โดยทั่วไปโมเดลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสามารถจำแนกได้เป็น:
จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่รับการทดสอบประจำปีมักเป็นปัจจัยที่ทำให้โมเดลการส่งมอบได้ผลดีที่สุด
โครงการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินต้องให้บุคคลที่ได้รับการรับรองทำการตรวจสอบการได้ยิน รวมถึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญไม่ว่านักโสตสัมผัสวิทยาหรือแพทย์ก็ดี ควบคุมดูแลโครงการและตรวจสอบ "ออดิโอแกรมที่มีปัญหา" คำว่านักเทคนิคการตรวจสอบสมรรถนะการได้ยินหรือนักอนุรักษ์การได้ยินในการประกอบอาชีพ (OHC) จะหมายถึงบุคคลซึ่งเป็นผู้ทำการทดสอบ ทั้งนี้มีการอบรมความรู้และการรับรองสำหรับนักเทคนิคการตรวจสอบสมรรถนะการได้ยินโดย Council for Accreditation in Occupational Hearing Conservation (CAOHC) การสำเร็จหลักสูตรการเรียนและผ่านการทดสอบมาตรฐานจะได้รับหนังสือรับรอง Certified Occupational Hearing Conservationist. ดูรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีรับการรับรองที่ www.caohc.org
การควบคุมดูแลโครงการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินอย่างมืออาชีพเป็นสิ่งจำเป็นตามข้อบังคับ และสามารถดำเนินการได้โดยนักโสตสัมผัสวิทยาหรือแพทย์ นอกจากนี้ยังมีการรับรองโดยสมัครใจสำหรับมืออาชีพโดยผ่าน CAOHC หนังสือรับรองนี้เรียกว่า Professional Supervisor of the Audiometric Monitoring Program® (CPS / A) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.caohc.org เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทของหัวหน้างานมืออาชีพและวิธีรับการรับรอง.
นอกจากนี้ข้อบังคับยังอนุญาตให้นักโสตสัมผัสวิทยาหรือแพทย์ดำเนินการตรวจการได้ยิน ดังนั้นการดูแลการทดสอบและการตรวจสอบโครงการอาจดำเนินการโดยบุคคลคนเดียวกันในบางโครงการ
หากคุณจะจัดทำโครงการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินภายในบริษัท จะต้องมีอุปกรณ์หลายๆ ชิ้น รายการอุปกรณ์ทั่วไปประกอบด้วย:
OSHA ระบุว่า "ออดิโอแกรมที่มีปัญหา" ต้องได้รับการตรวจสอบโดยนักโสตสัมผัสวิทยาที่มีใบอนุญาตหรือได้รับการรับรอง โสตศอนาสิกแพทย์ หรือแพทย์อื่นๆ เอกสารขยายความจาก OSHA (5-9-94) ให้คำอธิบายบางส่วน
ตามคำอธิบายของ OSHA “ตัวอย่างของออดิโอแกรมปัญหาคือ: ออดิโอแกรมที่แสดงถึงความแตกต่างกันอย่างมากของระดับเกณฑ์ขั้นต่ำในการได้ยินระหว่างหูทั้งสองข้าง ออดิโอแกรมที่แสดงถึงลักษณะการสูญเสียการได้ยินที่ผิดปกติซึ่งเป็นความผิดปกติของการสูญเสียการได้ยินที่เกิดจากการสัมผัสเสียงดังและออดิโอแกรมที่มีระดับเกณฑ์ขั้นต่ำในการได้ยินซึ่งไม่สามารถทำซ้ำได้.”
บ่อยครั้งที่หัวหน้างานมืออาชีพจะแนะนำนายจ้างและ/หรือนักเทคนิคการตรวจสอบสมรรถนะการได้ยินเกี่ยวกับการระบุออดิโอแกรมปัญหา
คำว่า ค่าเฉลี่ยของระดับการได้ยิน (Standard Threshold Shift : STS) นั้น OSHA กำหนดให้เป็นระดับของการเปลี่ยนแปลงการได้ยินที่กระตุ้นให้เกิดการดำเนินการเพื่อติดตามที่จำเป็น
ขั้นตอนที่ OSHA กำหนดสำหรับการคำนวณ STS คือ:
ในการคำนวณ STS นั้น OSHA อนุญาตให้นำส่วนเผื่อการสูญเสียการได้ยินตามวัยมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาด้วย โดยให้เหตุผลว่าหากระหว่างการทดสอบพื้นฐานกับการทดสอบประจำปีมีการเปลี่ยนแปลงทางการได้ยินเกิดขึ้น แสดงว่าส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้นมาจากอายุที่มากขึ้น ค่าการแก้ไขอายุจะระบุไว้ในข้อบังคับและขึ้นอยู่กับอายุและเพศของผู้ปฏิบัติงาน ถึงแม้จะอนุญาตให้มีการแก้ไขอายุได้ แต่การทำเช่นนั้นจะส่งผลให้ระบุการเปลี่ยนแปลงการได้ยินได้ล่าช้า และอาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพได้ วิธีการของ OSHA ในการนำค่าการแก้ไขอายุไปใช้จะอธิบายไว้ใน ภาคผนวก F ของข้อบังคับ 1910.95.
ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำในการได้ยินปกติจะอยู่ในช่วงของระดับการได้ยิน (HL) 0 – 25 dB ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่มากกว่า 25 dB HL นั้นถือว่าอยู่นอกช่วงปกติและบ่งชี้ว่ามีการสูญเสียการได้ยิน มีรูปแบบทั่วไปของการสูญเสียการได้ยินซึ่งบางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน
ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่อยู่นอกช่วงการได้ยินปกติ หรือไม่ตรงกับประเภทการสูญเสียการได้ยินนั้นจะถือว่าผิดปกติ
เมื่อระดับเกณฑ์ขั้นต่ำผิดปกติ ต้องให้ความสนใจมากขึ้นเพื่อกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดในการจัดการสูญเสียการได้ยินและผู้ปฏิบัติงาน
มีหลายครั้งที่ผลการทดสอบไม่สมบูรณ์เนื่องจากไม่ได้ดำเนินการตามข้อกำหนดในข้อบังคับ หรือไม่ได้แสดงถึงความสามารถในการได้ยินที่แท้จริงของผู้ปฏิบัติงาน การทดสอบที่ไม่ถูกต้องจะไม่สามารถนำมาใช้เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในข้อบังคับ และไม่ตรงตามจุดประสงค์เพื่อระบุการสูญเสียการได้ยินที่เกิดจากการสัมผัสเสียงดังในระยะแรก บางครั้งอาจทำการทดสอบซ้ำเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเนื่องจากเกณฑ์วิธีการทดสอบที่ไม่เหมาะสมหรืออุปกรณ์ทำงานผิดพลาด ในบางครั้งอาจต้องส่งต่อผู้ปฏิบัติงานไปยังนักโสตสัมผัสวิทยาเพื่อทำการทดสอบที่ครอบคลุมมากขึ้น
ต้องมีการประเมินผลลัพธ์ของโครงการทดสอบมรรถภาพการได้ยินเพื่อพิจารณาว่าการทดสอบนั้นถูกต้องหรือไม่ และมีการเปลี่ยนแปลงทางการได้ยินที่ต้องดำเนินการติดตามผลหรือไม่ OSHA ให้คำนิยามของค่าเฉลี่ยของระดับการได้ยิน (STS) ในข้อบังคับ 1910.95 ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการได้ยินของค่าเฉลี่ย 10 dB ขึ้นไปเมื่อเปรียบเทียบการทดสอบปัจจุบันกับการทดสอบประจำปีที่ความถี่ 2000, 3000 และ 4000 Hz ในหูข้างใดข้างหนึ่ง ในการคำนวณ STS จะอนุญาตให้แก้ไขอายุได้ การทดสอบซ้ำเพื่อยืนยันผลลัพธ์อาจทำได้ภายใน 30 วันหลังจากการทดสอบประจำปี หากไม่มี STS อีกแล้ว อาจใช้การทดสอบประจำปีแทนการทดสอบซ้ำ
OSHA กำหนดให้นายจ้างต้องแจ้งผลลัพธ์เป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ปฏิบัติงานทราบภายใน 21 วันนับจากที่ตรวจวัด หากมีการระบุ STS เว้นแต่แพทย์จะลงความเห็นว่า STS ไม่เกี่ยวข้องกับเสียงดังในสถานที่ทำงาน นายจ้างจะต้องมีมาตรการติดตามดังนี้:
หมายเหตุสำคัญ: ข้อมูลเหล่านี้อ้างอิงมาจากข้อกำหนดของประเทศที่เลือกในปัจจุบัน ข้อกำหนดของประเทศหรือในพื้นที่อื่นๆ อาจแตกต่างกัน โปรดศึกษาคำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับในพื้นที่เสมอ เว็บไซต์นี้แสดงภาพรวมของข้อมูลทั่วไปและไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจที่เฉพาะเจาะจง การอ่านข้อมูลนี้ไม่ได้รับรองความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ข้อมูลนี้เป็นปัจจุบัน ณ วันที่เผยแพร่ และข้อกำหนดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ไม่ควรใช้ข้อมูลนี้ในลักษณะแยกส่วน เนื่องจากเนื้อหามักประกอบไปด้วยข้อมูลเพิ่มเติมและ/หรือขยายความ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด