การถอดเสียงวิดีโอ:
แม้จะมีการปรับปรุงหลายอย่างด้านความปลอดภัยในการจราจรในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันก็ยังมีแนวโน้มหลายประการที่ลดความสามารถของป้ายจราจรในการนำทางที่ส่งผลต่อการสร้างความปลอดภัย
ประการแรก ผู้ผลิตรถยนต์เปลี่ยนไฟหน้ารถแบบเดิมมาเป็นไฟหน้าแบบ Visually Optically Aimable หรือ VOA ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อลดแสงแยงตาของไฟหน้ารถที่สวนทางในเวลากลางคืน แต่นอกจากนั้นแล้ว ไฟหน้าแบบ VOA ยังลดปริมาณแสงที่จะส่องป้ายถนนลงไปด้วย
เพื่อให้เห็นปริมาณแสงที่ส่องถึงป้ายที่ติดตั้งในสถานที่ต่างๆ เราจะมาลองใช้ป้ายที่ติดตั้งบนไหล่ทางด้านขวาซึ่งส่องสว่างด้วยไฟหน้ารถแบบเดิม แล้วกำหนดให้เป็นเกณฑ์การส่องสว่างมาตรฐานที่ 100%
คุณจะเห็นว่าแม้แต่ไฟหน้ารถแบบเดิมก็ยังมีประสิทธิภาพแค่เล็กน้อยเท่านั้นในการให้ความสว่างที่ป้ายใน "ตำแหน่งติดตั้งที่ี่ด้อยกว่า" เช่น ไหล่ทางด้านซ้ายและเหนือศีรษะ
เมื่อใช้ไฟหน้าแบบ VOA การส่องสว่างบนป้ายจะลดลงไปอย่างมาก ป้ายที่ติดตั้งอยู่ไหล่ทางด้านขวาแบบเดียวกันได้รับแสงเพียง 47% และป้ายเหนือศีรษะได้รับแสงเพียง 6.6% และ 8% เท่านั้น
แท้จริงแล้ว งานวิจัยฉบับหนึ่งพบว่าไฟหน้าแบบ VOA ทำให้แสงไฟที่ส่องไปยังป้ายจราจรลดลงไปสูงสุดถึง 53% เมื่อเทียบกับไฟหน้าแบบเดิมที่เคยใช้กัน
ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1990 ผู้ผลิตรถยนต์ได้เปลี่ยนมาใช้การออกแบบไฟหน้าแบบใหม่ เช่น Visually Optically Aimable (VOA) หรือไฟหน้าแบบคัตออฟต่ำ ไฟหน้าดังกล่าวนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดปริมาณแสงแยงตาผู้ขับขี่จากรถที่วิ่งสวนทางเข้ามา โดยทำให้ไฟมีลักษณะเป็นลำแสงที่คมชัด ตัดแสงออกในแนวนอนและปล่อยแสงออกเล็กน้อยเหนือระดับไฟหน้า
ไฟหน้าแบบคัตออฟต่ำส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถของรถในการส่องสว่างป้ายถนน ไฟหน้ารุ่นใหม่ๆ ในสหรัฐอเมริกาไม่ให้ความสว่างมากเท่ากับรถยนต์ทั่วไปสมัยปี 1997 ซึ่งพบเห็นบ่อยที่สุดคือป้ายข้างทาง (บนไหล่ข้างขวา) ในทุกระยะที่ทำการอ่านป้ายทั่วไป สำหรับป้ายที่ติดตั้งบนไหล่ทางด้านขวาโดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกา เมื่อมองในระยะห่างตั้งแต่ 91 เมตร (300 ฟุต) ถึง 274 เมตร (900 ฟุต) การส่องสว่างจากไฟหน้ารถรุ่นปี 1997 จนถึงปี 2011 ลดลงอยู่ในช่วงตั้งแต่ 24 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึง 48 เปอร์เซ็นต์ 1 เมื่อเป็นไฟหน้าแบบ VOA รุ่นใหม่ๆ ที่จำหน่ายพร้อมรถยนต์รุ่นปี 2004 ถึง 2011 ตำแหน่งที่ติดตั้งป้าย บางตำแหน่ง (ป้ายบนไหล่ทางด้านซ้ายและเหนือศีรษะ) แสดงให้เห็นการส่องสว่างดีขึ้นเล็กน้อย 1 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าป้ายบนไหล่ทางด้านซ้ายได้รับการส่องสว่างเพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และป้ายเหนือศีรษะได้รับประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของการส่องสว่างบนป้ายที่ติดตั้งบนไหล่ทางด้านขวา ป้ายเหล่านี้ก็ยังด้อยกว่าเป็นอย่างมากในแง่ของการได้รับแสงจากไฟหน้ารถ
1 Flannagan, M.J., and Schoettle, B., An Analysis of Low-Beam and High-Beam Headlighting Performance in the U.S.: 1997-2011, University of Michigan Transportation Research Institute, 2012.
เทรนด์อีกข้อหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของป้ายจราจรและเครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง คือ จำนวนผู้ขับขี่สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นบนท้องถนน
ภายในปี 2020 ผู้ขับขี่เกือบหนึ่งในห้ารายในสหรัฐอเมริกาจะมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และแสดงถึงอาการประสาทสัมผัส การรับรู้ และการทำงานของร่างกายที่เสื่อมถอยลงตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้การขับขี่เป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น ผู้ขับขี่เหล่านี้ต้องการป้ายและเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางที่มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่า เพื่อที่จะสัญจรได้อย่างสะดวก
ในสหรัฐอเมริกามีประชากรรุ่นเบบี้บูมเมอร์เกือบ 8,000 คนอายุย่างเข้า 65 ปีทุกวัน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่คาดการณ์ว่าจะเป็นไปอีกนานในอนาคต ภายในปี 2020 ประชากรสหรัฐอเมริกาจะมีพลเมืองเกือบ 56 ล้านคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และภายในปี 2030 ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 72 ล้านคน
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังเก็บใบขับขี่ไว้ใช้นานขึ้นด้วย ในปี 2010 ประชากรอายุ 70 ปีขึ้นไปจำนวน 80 เปอร์เซ็นต์มีใบอนุญาตขับขี่ นับเป็นผู้สูงอายุประมาณ 22.3 ล้านคน และจำนวนนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ1
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ความสามารถหลายอย่างที่มีการใช้เพื่อความจำเป็นต่อการควบคุมยานยนต์อย่างปลอดภัยย่อมจะเสื่อมถอยลงไป เมื่อมองในภาพรวมเป็นกลุ่ม ผู้สูงอายุมีสายตาเสื่อมลง ขอบเขตการรับภาพแคบลง สายตาเวลากลางคืนแย่ลง ความไวต่อแสงแยงตามากขึ้น การตอบสนองช้าลง สมาธิสั้นลง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ความยืดหยุ่นและระยะการเคลื่อนไหวลดลง อีกทั้งยังมีภาวะเสื่อมถอยอื่นๆ ในด้านการมองเห็น การรับรู้ และการทำงานของทักษะยนต์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการขับขี่2
การปรับปรุงการมองเห็นป้ายถนนและเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางอาจมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่สูงวัยที่มีอายุระหว่าง 60 ถึง 80 ปี ซึ่งต้องการแสงเพื่อที่จะมองเห็นมากกว่าคนอายุ 20 ปีสามถึงหกเท่า3 การบำรุงรักษาป้ายจราจรเพื่อให้สะท้อนแสงกลับทิศทางเดิมได้ ป้ายขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มความสูงของตัวอักษร ป้ายเตือนและป้ายถนนล่วงหน้า การปรับปรุงเส้นถนนให้กว้างขึ้นและมีเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางที่กว้างขึ้น พร้อมทั้งให้การดูแลรักษาอย่างดี ตลอดจนการเพิ่มการควบคุมการจราจรในพื้นที่งานก่อสร้าง ทั้งหมดนี้เป็นบางตัวอย่างของการปรับปรุงความปลอดภัยต้นทุนต่ำที่แนะนำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่สูงอายุ
1Insurance Institute for Highway Safety, iihs.org/research/qanda/older_people.aspx
2National Cooperative Highway Research Program, NCHRP Report 500
3American Automobile Association, Inc., SeniorDriving.AAA.com
เมื่อว่ากันด้วยเรื่องของการมองเห็นป้ายจราจร ขนาดของรถที่คุณขับก็มีส่วนสร้างความแตกต่างด้วยเช่นกัน
เช่น ในรถยนต์โดยสารทั่วไป แสงจากไฟหน้าของคุณซึ่งส่องกระทบป้ายที่ระยะ 91 เมตร (300 ฟุต) จะย้อนกลับมาหาคุณที่มุม 0.5 องศาโดยประมาณ สิ่งนี้เรียกว่ามุมสังเกต
ในรถ SUV หรือรถกระบะ มุมนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 0.6 องศา
และในรถบรรทุกกึ่งพ่วงหรือรถเทรลเลอร์ที่ผู้ขับขี่อยู่ห่างจากไฟหน้ามากขึ้น มุมสังเกตจะขยายเป็นประมาณ 1.2 องศา
มุมสังเกตมีความสำคัญ เนื่องจากผู้ขับขี่ต้องสามารถมองเห็นป้ายได้ในพาหนะทุกประเภท ในบริเวณที่สำคัญ และในทุกระยะของการอ่านป้าย
หากแสงสะท้อนรูปกรวยแคบ ผู้ขับขี่พาหนะขนาดใหญ่จะประสบปัญหาในการมองเห็นป้ายจราจรในเวลากลางคืน
ป้ายเดียวกันอาจจะดูสว่างน้อยกว่าสำหรับผู้ขับขี่รถ SUV และรถบรรทุกขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับผู้ขับขี่รถยนต์โดยสาร
จำนวนรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 11 ล้านคันในปี 2009 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ปริมาณการใช้รถบรรทุก (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของไมล์รถที่เดินทาง) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจนเกือบถึง 3 แสนล้านไมล์ในสหรัฐอเมริกาในปี 2009 1 FHWA รายงานว่าภายในปี 2040 ปริมาณการใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าทางไกลในสหรัฐอเมริกามีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระบบทางหลวงแห่งชาติ และอาจสูงถึง 590 ล้านไมล์ต่อวัน 2 และข้อแตกต่างจากรถยนต์และรถบรรทุกเพื่อธุรกิจซึ่งมีปริมาณสูงสุดในช่วงเวลากลางวันระหว่าง 07:00 น. ถึง 19:00 น. ปริมาณของรถบรรทุกทางไกลจะมีการกระจายเวลาแบบคงที่ในแต่ละวัน โดยมีจำนวนรถที่เดินทางในช่วงเวลากลางคืนมากพอๆ กับกลางวัน3
เมื่อกล่าวถึงการมองเห็นป้ายจราจรในเวลากลางคืน ผู้ขับขี่พาหนะขนาดใหญ่จะเสียเปรียบเป็นพิเศษ เนื่องจากมุมสังเกตมีขนาดกว้างกว่าอย่างชัดเจน
การวัดนี้มีความสำคัญอย่างไร รถบรรทุกขนาดใหญ่อาจมีมุมสังเกตมากกว่าพาหนะโดยสารทั่วไปถึงสองเท่าในระยะทางเท่ากัน นั่นหมายความว่ามีแสงสะท้อนน้อยลงไปมากสำหรับผู้ขับขี่เหล่านี้ในการมองเห็นป้ายถนน ผู้ขับขี่พาหนะขนาดใหญ่จะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากป้ายที่ทำด้วยแผ่นป้ายสะท้อนแสงสมรรถนะสูง ซึ่งส่งคืนแสงได้มากกว่าในแสงสะท้อนรูปกรวยที่ใหญ่กว่า
1 Commercial Motor Vehicle Facts - November 2011, U.S. Department of Transportation
2 FHWA-HOP-13-001 - Freight Facts and Figures, 2012
3 FHWA-RD-98-117 - Understanding Traffic Variations by Vehicle Classifications