เพิ่มทางเลือกในการออกแบบโดยใช้กาวให้ถูกชนิดเพื่อยึดติดวัสดุต่างชนิดกันอย่างไร้รอยต่อ
เมื่อต้องยึดติดวัสดุต่างชนิดกัน เทปและกาวของ 3M สามารถช่วยแก้ปัญหาท้าทายในงานออกแบบที่พบอยู่เป็นประจำได้ ไม่ว่าจะเป็น
1. การโค้งงอผิดรูปของพื้นผิว โดยเฉพาะวัสดุที่บาง
2. ขั้นตอนที่น่าเบื่อหน่าย เช่น การขัดผิวและขัดเงา
3. ความล้าของจุดต่อรวมกันอยู่ที่จุดเดียว
การใช้กาวให้เหมาะกับลักษณะงานจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและกระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ คุณสามารถเลือกได้ง่ายๆ โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: ระบุประเภทการใช้งาน
เลือกประเภทของกาวและเทปที่จะใช้โดยดูจากรูปร่างบริเวณจุดต่อ
ขั้นตอนที่ 2: ระบุวัสดุที่จะใช้ยึดติด
คำนึงถึงพลังงานพื้นผิวและผิวสัมผัสของวัสดุฐานแต่ละชนิด
ขั้นตอนที่ 3: ระบุขั้นตอนสำหรับการผลิต
ขั้นตอนการผลิตจะมีผลกับอัตราความแข็งแรงของกาวและวิธีใช้งาน
ขั้นตอนที่ 4: ระบุสภาพแวดล้อมที่จะนำผลิตภัณฑ์ไปใช้จริง
เลือกกาวและเทปที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่จะนำไปใช้งานจริง
การเติมเต็มช่องว่างและการแยกตัวของวัสดุคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการยึดติดโลหะ เทปและกาวจะเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสเพื่อการยึดติดที่แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โลหะมีพลังงานพื้นผิวสูงจึงยึดติดกับวัสดุอื่นได้ง่าย
แก้ว ไม้ และเซรามิกสามารถยึดติดได้ง่ายเนื่องจากมีพลังงานพื้นผิวปานกลาง เมื่อนำไปติดกับวัสดุชนิดอื่น เทปและกาวของ 3M จะปรับสภาพตามพลังงานพื้นผิวที่หลากหลายเพื่อให้การยึดติดที่คงทน
เป็นพลาสติกที่โดยทั่วไปมีความแข็งแรง เนื้อแข็ง และใช้งานได้ดีที่อุณหภูมิสูง และจะต้องใช้เทปหรือกาวอุตสาหกรรมที่ทนต่ออุณหภูมิและตัวทำละลายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
พลาสติกที่มีพลังงานพื้นผิวต่ำ (LSE) จะเกิดการกระจายของกาวได้ยาก ซึ่งทำให้การเลือกประเภทของกาวมีความสำคัญอย่างยิ่ง 3M ได้พัฒนากาวพลาสติกที่ใช้สำหรับยึดติดวัสดุเหล่านี้โดยเฉพาะ
ยึดติดอย่างแข็งแรงเมื่อใช้โซลูชั่นการยึดติดของ 3M ที่เหมาะกับงานของคุณ มาดูว่าโซลูชั่นเหล่านี้ช่วยให้ขั้นตอนการประกอบเป็นไปอย่างราบรื่นและทำให้รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายดีขึ้นได้อย่างไร